ผลไม้ต้องห้ามยามตั้งครรภ์
แม้ผลไม้จะอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่เหมาะในช่วงตั้งครรภ์ แต่แม่ท้องก็ต้องเลือกกิน เพราะก็มีผลไม้บางอย่างที่อาจไม่เหมาะสำหรับคนท้องเท่าไรนัก\
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjt8_QCQ1ebeZjVwJKvCawsGvQCDALv0JmTchHay-4YrK66hqnpoteaYpBM-y_L9pjZsbvf3_4ot4vy1mj4YS-FAJQ6OGtL4fuGpDAwnMMLtA7Ym54Z1YulnrVd11cLBXJ3LNtzLz2PAN0/s400/index.jpg)
สิ่งที่ต้องระวังในผลไม้
แร่ธาตุและสารอาหารบางอย่างในผลไม้ อาจไม่เหมาะกับช่วงของการตั้งครรภ์ เพราะอาจทำให้แม่ท้องมีอาการไม่พึงประสงค์ได้
+ กำมะถัน : กำมะถันเป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย พบมากในผลไม้ที่มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ เช่นทุเรียน ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีทั้งใยอาหาร แป้ง น้ำตาล ไขมัน และซัลเฟอร์หรือกำมะถันสูง หากกินในปริมาณมากจะทำให้มีแก๊สในลำไส้ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการท้องอืด
การย่อยสลายกำมะถันทำให้เกิดกลิ่นเฉพาะตัว อาจทำให้แม่ท้องเหม็นกลิ่น มีอาการคลื่นไส้ได้ง่าย หากอาการแพ้ท้องควรหลีกเลี่ยง นอกจากนี้กำมะถันยังทำให้แม่ท้องมีอาการร้อนใน แน่นท้อง ไม่สบายตัว ยิ่งแม่ท้องช่วงก่อนคลอด อาจเกิด Heartburn หรืออาการจุกเสียดยอดอกที่เกิดจากการน้ำย่อยอาหารไหลย้อนกลับมาที่หลอดอาหาร แม่ท้องจึงไม่ควรกินผลไม้ที่มีกำมะถันในปริมาณมาก เพราะทำให้ท้องอืดง่ายนั่นเอง
+ คาร์โบไฮเดรต : ฝรั่งเป็นผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตและมีใยอาหารสูง โดยเฉพาะผลดิบจะมีปริมาณของแป้งซึ่งจัดเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนมาก ทำให้ต้องใช้เวลาย่อยและดูดซึมช้า เพื่อที่จะเปลี่ยนจากแป้งเป็นน้ำตาล จึงเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการท้องอืด
การที่แม่ท้องกินครั้งละมากๆ กินเร็ว ไม่เคี้ยวให้ละเอียดดีเสียก่อน รวมถึงมดลูกที่มีขนาดเพิ่มขึ้น ไปกดทับกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้การบีบตัว-คลายตัวของกระเพาะอาหาร มีประสิทธิภาพน้อยลง ล้วนแต่เป็นปัจจัยส่งเสริมให้การกินผลไม้ที่มีแป้งมากๆ จะทำให้แม่ท้องรู้สึกอึดอัด ท้องอืดอาหารไม่ย่อยได้ทั้งสิ้น
สำหรับผลไม้สุกจะผ่านกระบวนการย่อยจากแป้งให้เป็นน้ำตาลมาก่อน เมื่อกินแล้วทำให้ย่อยได้ง่ายมากกว่า แต่ร่างกายก็จะได้รับปริมาณน้ำตาลมากกว่าด้วยเช่นกัน
+ รสหวานในผลไม้ : รสหวานหรือปริมาณคาร์โบไฮเดรตในผลไม้ที่แม่ท้องกิน ไม่ได้เป็นปัจจัยโดยตรงที่ทำให้เกิดภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ แต่การกินผลไม้ที่ให้รสหวานอย่าง ลำไย องุ่น มะม่วงสุก ฯลฯ เป็นประจำ ในปริมาณมากเกินความต้องการของร่างกาย เป็นสาเหตุที่ทำให้แม่ท้องมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดภาวะน้ำหนักเกิน ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีหน้าที่นำน้ำตาลไปใช้ ทำงานได้ไม่เต็มความสามารถ
ลักษณะของผลไม้ต้องห้ามยามท้อง
นอกจากแร่ธาตุและสารอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่ออาการต่างๆ ของแม่ท้องแล้ว ลักษณะของผลไม้ยังเป็นสิ่งที่แม่ท้องสามารถสังเกต และเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่า ผลไม้ดังต่อไปนี้ไม่เหมาะกับคุณ
+ ผลไม้ดิบ จะมีปริมาณแป้งมากกว่าน้ำตาล ถ้าได้รับในปริมาณมากจะทำให้เกิดอาการแน่นท้อง ท้องอืด เพราะแป้งเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ร่างกายต้องใช้เวลาย่อยนาน เช่น มะม่วงดิบ ฝรั่งดิบ กล้วยดิบ ควรเคี้ยวให้ละเอียดทุกครั้งหากต้องการกิน
+ ผลไม้ที่มียาง ยางจากผลไม้อาจทำให้มีผื่นแพ้ คันที่ผิวหนัง และริมฝีปาก คุณแม่ควรล้างน้ำให้หมดยางหรือปอกเปลือกก่อนกิน เช่น มะปราง มังคุด ลองกอง หรือลางสาด เป็นต้น
+ ผลไม้นอกฤดูกาล นอกจากจะมีราคาแพงแล้ว ผลไม้นอกฤดูอาจมีการใช้สารต่างๆ เพื่อเร่งผลผลิต เช่น ปุ๋ย ฮอร์โมน ยาฆ่าแมลง ฯลฯ ทำให้แม่ท้องได้รับสารเคมีเพิ่มขึ้น
+ ผลไม้ที่ผ่านการแปรรูป เช่น ผลไม้กวน ผลไม้แช่อิ่ม ผลไม้ดอง ผลไม้เชื่อม มีน้ำตาลและเกลือสูง คุณค่าทางโภชนาการลดลงและยังเสี่ยงต่อการได้รับสารปนเปื้อนต่างๆ เช่น บอแรกซ์ สารกันเชื้อรา สารกันบูด และสีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
5 เทคนิคกินผลไม้ยามท้อง
ผลไม้ทุกชนิด ถ้ากินในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้แม่ท้องหมดกังวลและกินได้อย่างสบายใจ หลักในการจำง่ายๆ ก็คือ
1.จำกัดปริมาณการกินผลไม้ที่มีรสหวาน
2.ไม่ควรกินผลไม้แทนอาหารหลักในแต่ละมื้อ
3.เฉลี่ยแล้วแม่ท้องกินผลไม้ได้ 2-3 ชนิดต่อวัน ครั้งละ 5-6 ชิ้นพอคำ
4.ควรกินผลไม้ให้หลากหลาย พิจารณาตามสี เช่น แอปเปิ้ลแดง ฝรั่ง สาลี่ เป็นต้น
5.หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำผลไม้ สำหรับแม่ท้องที่มีน้ำหนักตัวเกิน หรือเป็นเบาหวาน เพราะมีน้ำตาลสูง แต่มีใยอาหารน้อย
เลือกผลไม้ให้เหมาะกับแม่ท้อง
สำหรับแม่ท้องที่โปรดปรานการกินผลไม้ ไปจนถึงแม่ท้องที่กินเพื่อสุขภาพ เรามีคำแนะนำดีๆ สำหรับคุณ เพื่อเป็นตัวเลือกที่ดีและมีประโยชน์ยามตั้งครรภ์
+ ฝรั่งสุก มีวิตามินซีและกากใยสูง ให้พลังงานต่ำ เหมาะสำหรับแม่ท้องที่น้ำหนักเกิน มีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์
+ มะละกอ เป็นยาระบายอ่อนๆ ป้องกันอาการท้องผูก ส่วนเบตาแคโรทีนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น
+ แคนตาลูป มีรสหวานปานกลางและมีปริมาณน้ำมาก จึงทำให้สดชื่น เย็นสบายและมีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อแม่ท้อง เช่น โฟเลต
+ แอบเปิ้ลเขียว มีกากใยช่วยขับถ่าย รสหวานอมเปรี้ยวช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้อง
+ กีวี อุดมด้วยวิตามินซีที่ช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก ส่วนใยอาหารช่วยการขับถ่าย
+ แตงโม มีปริมาณน้ำมากช่วยให้คลายร้อน เพิ่มความสดชื่น สามารถกินแทนน้ำหวาน น้ำอัดลม
+ สตรอว์เบอร์รี มีวิตามินซีและใยอาหารสูง ให้พลังงานต่ำ น้ำตาลน้อย รสเปรี้ยวอมหวานช่วยลดอาการแพ้ท้องได้
สุขภาพดีอยู่ที่การเลือกสรรสิ่งดีๆ ที่เหมาะสมให้กับตัวเอง โดยเฉพาะแม่ท้องแล้ว ต้องช่างเลือกเป็นพิเศษ และนี่คืออีกหนึ่งเคล็ดลับในการเลือกบริโภคผลไม้ เพื่อคุณค่าสูงสุดสำหรับแม่ท้อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น